Thursday 23 December 2010

OTOP CITY 2010 and market share potential to open world???



new boss now.....

ชื่อ - สกุล นายสุรชัย ขันอาสา


ตำแหน่ง รักษาการในตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน


วัน เดือน ปีเกิด 21 มิถุนายน 2500


ที่อยู่ปัจจุบัน
91/980 หมู่ที่ 1 ซอยปัฐวิกรณ์ 2 ถนนสุขาภิบาล 1 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10240


ที่ทำงาน กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคาร B ชั้น 5
ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210


หมายเลขโทรศัพท์ มือถือ (081)8388380 ที่ทำงาน (02)1416391


ประว้ติการศึกษา 1.รัฐศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม อันดับ 1) สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2.รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต(เกียรตินิยมดี) เอกนโยบายสาธารณะและการบริหารโครงการ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)


การอบรมสัมมนา 1.นายอำเภอ (นอ.) รุ่นที่ 37 วิทยาลัยการปกครอง 2537

2.นักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 39 วิทยาลัยการปกครอง 2542

3.วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ. 2549) สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ


ประวัติการรับราชการที่สำคัญ

1.นายอำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร นายอำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว

นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ


2.ผู้อำนวยการส่วนพัฒนารายได้ท้องถิ่น กรมการปกครอง

3.ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง

4.ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงภายใน กรมการปกครอง

5.รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์

6.รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

7.รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์

8.รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร

9.รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

10.ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ระหว่าง 1 ตุลาคม 2552 - 30 กันยายน 2553

11.รักษาการในตำแหน่ง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2553

12.ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ รักษาการในตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2553












คือว่าช่วงนี้อยู่งานโอทอปที่เมืองทอง เขาให้มาช่วยเกี่ยวกับการประเมิน เลยเห็นเขาให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมเก็บข้อมูลทำดาต้าคีย์เข้าเครื่องกันวันต่อวัน เพื่อพี่น้องชาวรากหญ้าจะได้ขายของกัน โดยตอนนี้รัฐบาลยังอุ้มอยู่มาก ทั้งทั้งคณะกรรมการโอทอปเขาก็ช่วยน่าดู อันที่จริงมองดูมันเป็นกงกรรมกงเกวียน เพราะว่าน้องคนสวยเขาบอกว่าลองถามความเห็นชาวต่างชาติว่าช่องทางตลาดทางเมืองนอกสำหรับสินค้าพื้นบ้านของเรามีโอกาศแค่ไหน

พอดีช่วงนี้ข้าราชการผู้รับทุนระดับประเทศจากอินโดบังคลาเทศเขาก็มาอินเดียก็มา ช่วยแลกเปลี่ยนความรู้กับเราก็มาก ทำแบบสอบถามมาถามผู้ประกอบการโอทอปเราเยอะน่าสนใจทั้งสิ้น ปัญหาของแต่ละประเทศต่างกัน วันนี้นักเรียนปริญญาเอกจากญี่ปุ่นเขาให้ข้อคิดเห็นน่าสนใจ และอาจารย์มหาวิทยาลัยระดับปริญญาเอกจากอเมริกา เขาก็รักงานฝีมือชุมชนของเรามาก ขนซื้อและให้ข้อคิดเห็นที่น่าทึ่ง

ปัญหาไม่ใช่สินค้าของเราไม่ได้เรื่องเพราะการคัดสรรของเราเยี่ยมยอดด้วยหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรมจากทุกกระทรวงที่มาร่วมมือกัน


แต่ภาคเอกชนระดับที่อยู่ในตลาดทุนนั่นต่างหากที่พร้อมหรือยังที่จะร่วมมือกับภาครัฐยอมลดส่วนแบ่งกำไรตามกฏหมายที่น่าจะออกมาช่วยรากหญ้าในเรื่องของการบังคับให้จ่ายหรือต้องจัดให้มีกิจกรรมช่วยสังคมในเปอร์เซ็นสูงตัดจากผลกำไร เหมือนอย่างอินโดนีเซียที่เขาลงทุนในภาครัฐช่วยเหลือภาคเอกชนที่อยู่ในตลาดทุน รัฐลงทุนในเงินทุนมหาศาลในเรื่องสาธารณูปโภคหรือการเคลื่อนย้ายสินค้ามิใช่เพียงผู้ค้าในตลาดทุนได้ประโยชน์ แม้ได้ประโยชน์มหาศาลมาแล้ว แต่รัฐต้องมีกฏหมายภาคบังคับแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้รากหญ้าจากผลกำไร ดังนั้นทุกบริษัทต้องจ้างนักพัฒนาชุมชนเป็นของตัวเอง เป็นภาคบังคับ

ส่วนการกระจายอำนาจอินโดเขากระจายพรวดเดียวคนเป็นล้านจากส่วนกลางลงสู่ภูมิภาค ไม่มาเวลาต้องมาขึ้นค่าแรงเท่าตัวกันภายหลัง มุ่งส่งอำนาจการตัดสินใจเพื่อปากท้องประชาชนผ่านนักการเมืองท้องถิ่น ระดับตำบล ส่วนเรื่องความมั่นคงถ้าจัดการเป็นระบบเดียวกันแบบองค์กรมหาชนได้ จะไม่มีการปกครองประชาชนอีก มีแต่สิ่งที่เรียกว่าการบริหารจัดการการมีส่วนร่วมของประชาชน เอานำไปสู่พื้นฐานของการเคารพสิทธิิและหน้าที่ตามหลักประชาธิปไตย

ดังนั้นโดยสรุปถ้านโยบายทำได้ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้กรมการพัฒนาชุมชนหรือกระทรวงพานิชย์มาผลักดันมากมาย เพียงช่วยคิดช่วยกำกับดูแลก็พอแล้ว โยนไปภาคเอกชนระดับเพดานบินสูงให้หมด เดี๋ยวเขาจัดการเรื่องCSR้เรือ่งการบริหารจัดการชุมชน เรื่องเดินสายหาตลาดต่างประเทศ เขาเก่งอยู่แล้ว เงินค่าจ้างเขาซื้อตัวคนได้ จะได้มาไม่มากล่าวหาว่าราชการชอบกินคอรัปชั่น เพราะช่องว่างระหว่างรายได้ ไม่ต่างมากกับภาคเอกชนเขา สมองจะได้ไม่ไหลไปอยู่แต่ภาคเอกชน รัฐบาลทำได้บ้างเนี่ย ตัดปัญหาข้าราชการอยากขึ้นเงินเดือนเท่าเอกชนหรือปัญหาการโอนย้ายไปกิจการที่บินไปขายของต่างประเทศว่าแต่หาตลาดเหมาลำไปเช่นนั้น แต่นักสร้างอาชีพอย่างพอชอในภูมิภาคบ้านนอกคอกนาไม่เห็นได้บินไปเปิดตลาดกับเขามั่ง ดีไม่ดี พวกพอชอไปทำพิเศษไปเป็นที่ปรึกษามือวางสร้างคนสร้างอาชีพอยู่ภาคเอกชนจนหมดล่ำซำนะเนี่ย เพราะค่าวิทยากรเขาให้ตั้งชั่วโมงละสองพันขึ้นไปโน่น เห็นพวกที่เป็นวิทยากรให้องค์การระหว่างประเทศเขาว่า ไม่มีการค่าต๋งด้วย สุดยอดจริงๆ

หากนโยบายมีแน่ของแบบนี้ ภาคเอกชนนั้นๆจะผลักด้นสินค้าพื้นบ้านของตัวเองไปสู่ตลาดโลกตลาดระดับบนพร้อมไปกับสินค้าของบริษัทตน ไม่ต้องมาวิ่งหาตลาด วิ่งระดมทุน สร้างภาพ ให้ตลาดดัชนีมันวิ่งเป็นพันจุดอย่างนี้ พวกเขาจะหาที่วางขายสินค้าที่เขาปั้นมากับมือบนตลาดของระดับสังคมที่กระเป๋าหนักเขาเดินช็อปปิ้งกันตามห้างหรููอย่างที่หลายท่านแนะนำ ตามแบบสำรวจความพึงพอใจที่ว่า เพราะห้างร้าน ตลาดส่งออก เอเจนซี่ระดับบนพวกนี้ ย่อมเตะสกัดสินค้าที่ตนเองไม่ได้สร้างขึ้นมากับมือเหมือนอย่างพี่น้องชาวพอชอสร้างมาจากสารพัดกลุุ่มอาชีพ


Many suggests from questionnaires,some still be only raw data that get no analysis under high record on validity and reliability that can not prove assuptions about how significant of percentile in relation between all variables..potential of our local product to spread out on outbound and export way is not only mass economic or development policy but it must intense and focus on force law to cut benefits and profits from public companies of set trade about community development projects by thier CSR policies and strategics also...

sugar and life on eve Christmas time..god save me!




OTOP CITY 2010 Start now!Big event of exhibition and world trade fair supporting by Interior and Commercial ministries Integration focus on exporting Thailand local products brand OTOP ,18-26dec2010,Impact Arena,Mounthong thani ,Nonthaburi,Thailand

http://www.flickr.com/photos/birdmydog/?saved=1



http://www.youtube.com/watch?v=E5QD6EOBUWo
http://www.flixya.com/video/3867310/7th-Thailand-OTOP-City-2010

No comments:

CDD Photo Album